จดหมายสามเสน ถึงแม่พลอยในสี่แผ่นดิน
.
ถึง แม่พลอย
.
แม่พลอยจ๋า เมื่อคืนนี้ฉันได้อ่านเรื่องราวชีวิตของแม่พลอยผ่านหนังสือเรื่อง สี่แผ่นดินด้วยความประทับใจ แม่พลอยเติบโตและถูกอบรมเลี้ยงดูโดยวังของหม่อมฯ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 มีแม่สายเป็นคนดูแล มีแม่ช้อยเป็นเพื่อนสนิท แม่พลอยเล่าว่าในวัยเด็ก ในวังมีกฎระเบียบมากมาย แต่แม่ช้อยมักจะแหกกฎเสมอ ทำให้ฉันอดจะอมยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ แม่ช้อยมักมีเรื่องแปลก ๆ มาเล่าให้แม่พลอยฟัง ฉันจำได้ว่าในสมัยนั้น ฝรั่งได้เข้ามารุกราน และค้าขายในสยาม นำสินค้าแปลก ๆ ใหม่ ๆ เข้ามามากมาย 1 ในสินค้าที่แม่พลอยประทับใจคือจักรยาน ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายแม่พลอยจะได้แต่งงานกับพ่อเปรม คนที่นำจักรยานมาให้ ฉันนึกถึงตอนที่แม่พลอยร้องไห้เมื่อต้องออกจากวัง แม่พลอยคงกลัว ว่าต่อไปนี้ชีวิตจะเปลี่ยนไป ต้องไปอยู่กับพ่อเปรมที่ไม่คุ้นเคย แต่เป็นบุญของแม่พลอยเหลือเกิน ที่พ่อเปรมทั้งเมตตา รักใคร่ เอ็นดู จึงมีชีวิตที่เป็นสุข จนถึงวันหนึ่งที่ฟ้าเปลี่ยนสี แม่พลอยเล่าว่า
.
“ พลอยเกิดมาในแผ่นดินของท่านที่รู้สึกว่าเป็นสุขแต่น้อยคุ้มใหญ่ มีชีวิตอยู่ได้ด้วยความแน่นอน เหมือนกับว่ามีต้นโพธิ์อันใหญ่คุ้มกันอยู่ให้ได้รับความร่มเย็นเพราะพระบารมี เรื่องพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตนั้น พลอยไม่เคยนึกถึงเลย เพราะนึกไปไม่ถึงด้วยเป็นเรื่องใหญ่... วันนั้นอากาศมืดครึ้มไปทั่ว ไม่มีแสงแดด ทำให้แลดูครึ้ม เยือกเย็น ลมเหนือที่เริ่มจะพัดในเดือนตุลาคมหยุดนิ่ง ในวันนั้น แม้แต่ใบไม้สักใบก็ไม่มีกระดิก เสียงนกเล็กๆ ที่เคยร้องอยู่ตามพุ่มไม้ก็เงียบหายไป ธรรมชาติทั่วทั้งกรุงเทพฯ ดูเหมือนจะแสดงความโศกสลดในความวิปโยคอันยิ่งใหญ่
.
พอพระยานมาศเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้า พลอยก็ก้มลงกราบถวายบังคม และเมื่อเงยหน้าขึ้น ตาก็พอดีไปจับอยู่ที่ใบหน้าทหารที่ยืนรายทาง ทหารคนนั้นถือปืนกลับปลายกระบอกลง ห้ามหน้าไม่กระดิกตามที่ได้รับคำสั่ง ใบหน้าของทหารคนนั้นเป็นใบหน้าของเด็กหนุ่มชาวบ้านนอก แต่สิ่งที่เข้ามาปลดปล่อยความรู้สึกของพลอยให้ปะทุออกมาทั้งหมดก็คือ บนใบหน้าทหารหนุ่มนั้นมีทางน้ำตาเป็นทางยาวไหลออกมา จากเบ้าตาทั้งสองข้างและน้ำตานั้นไหลอยู่ไม่ขาดสาย พลอยเป็น คนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาให้คนอื่นเห็น แต่เมื่อเห็นหน้าทหารคนนั้นด้วยแสงเทียนที่ถืออยู่ พลอยก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหมดอับอาย”
.
แม่พลอยจ๋า ฉันสารภาพอย่างไม่อายเลยว่าเมื่ออ่านถึงตอนนี้ฉันร้องไห้โฮ ฉันเข้าใจความรู้สึกของแม่พลอยที่ต้องสูญเสียล้นเกล้าอันที่เป็นที่รักยิ่ง ฉันเกิดและเติบโตในแผ่นดินของพ่อหลวง มีความสุขความร่มเย็นภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ท่านเป็นร่มไม้ใหญ่ที่แผ่ปกคลุมทั่วผืนดินสยาม ยาวนาวกว่า 70 ปี เรื่องพ่อหลวงเสด็จสวรรคตนั้น ฉันไม่เคยนึกถึงเลย คืนนั้นฟ้ามืดมัว กรุงเทพเงียบสงบ ฉันได้ยินแต่เสียงร่ำไห้สะอื้นทั้งแผ่นดิน ยามเช้าผู้คนออกมาเต็มท้องสนามหลวง เพื่อกราบถวายบังคมเป็นครั้งสุดท้าย ..... พอก่อนนะ ตอนนี้ลำคอตื้นตันไปหมด น้ำตาฉันไหลลงมาอีกแล้ว
.
เวลาผ่านไปในสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 หน้าที่การงานของพ่อเปรมเติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นถึงพระยา และยังทันยุคทันสมัย ทำให้พ่อเปรมดูสดชื่น กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ ส่วนแม่พลอยได้เป็นถึงคุณหญิง มีลูกที่น่ารัก 4 คน ซึ่งนิสัยแตกต่างกันเหลือเกิน พ่ออ้น พ่ออั้น พ่ออ๊อด และแม่ประไพ แต่ฉันกลับนึกถึงพ่อเนื่อง พี่ชายของแม่พลอยนะ พ่อเพิ่มเป็นคนมีความสุขตามอัตภาพ ไม่ว่ายุคสมัย หรือผู้คนจะเปลี่ยนไปเช่นไร เขายังคงห่วงใยแม่พลอย และมีความสุขอยู่เสมอ ฉันจำได้ว่าในยุคสมัยนี้ เป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 สยามเข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตรเพื่อต่อต้านเยอรมัน และรัสเซีย พ่อเปรมก็ดูคึกคักอยากเข้าไปร่วมสงครามเต็มที แต่สงครามจบซะก่อนที่ทหารสยามจะเดินทาง ฉันเลยอดฟังวีรกรรมของพ่อเปรม
.
ครั้นถึงรัชกาลที่ 7 ชีวิตการงานของพ่อเปรมถูกกดดันมากขึ้น ภายใต้ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก การรุกรานของต่างชาติ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และชนชั้นกลาง ที่เริ่มเรียกร้องสิทธิมากขึ้น ข้าราชการถูกดุลไปมากมาย ขนาดพ่อเปรมในฐานะเจ้ากระทรวงยังอึดอัด คับข้องใจ แล้วล้นเกล้าฯ ท่านจะทรงพระกังวลมากเพียงใด จนกระทั่งพ่อเปรมตัดสินใจดุลตัวเองออกมา ชีวิตที่ปราศจากภาระหน้าที่ และตำแหน่งที่เคยมี ทำให้พ่อเปรมท้อแท้ แม้วิทยาการสมัยใหม่ ก็ไม่อาจดึงความสนใจของพ่อเปรมได้ แม่พลอยคงกังวลมากใช่ไหม ถึงได้ปรึกษาแม่ช้อย กับพ่อเนื่องอยู่เรื่อย ๆ แม้จะทำหลายอย่างแต่ก็ไม่อาจเข้าถึงจิตใจพ่อเปรมได้เลย อีกทั้งลูก ๆ ที่เติบโตขึ้น มีหน้าที่การงาน มีแนวคิดใหม่ ๆ อย่างประชาธิปไตย ที่พ่อเปรมและแม่พลอยฟังไม่เข้าใจ แม้แต่ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แนวคิดใหม่ ๆ ของคนรุ่นใหม่เริ่มจริงจังมากขึ้น รวมถึงพ่ออั้นด้วย กระแสการเปลี่ยนแปลงนี้มารวดเร็วและรุนแรง พวกเขาเรียกตัวเองว่าคณะราษฏร์ ที่มีเป้าหมายจะปฏิวัติสยามแบบฝรั่งเศสและรัสเซีย พวกเขาได้ทำในสิ่งที่แม่พลอยและฉันไม่กล้าคิดถึง นั่นคือการปฏิวัติยึดอำนาจจากพระเจ้าแผ่นดิน หากพ่อเปรมยังมีชีวิตอยู่ คงจับอาวุธมาสู้กับพวกเขาเป็นแน่ แต่นึกไม่ถึงว่าคนที่จับอาวุธกลับเป็นพ่ออ้น ฉันเชื่อว่าหากไม่ใช่เพราะพระเมตตาจากล้นเกล้าฯ ที่ไม่ต้องการให้ชาวสยามเสียเลือดเสียเนื้อ การปฏิวัติครั้งนี้ย่อมล้มเหลว แต่เมื่อเกิด 1 ครั้ง ย่อมต้องมีครั้งต่อไป ด้วยสายพระเนตรที่กว้างไกลเห็นถึงกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ท่านจึงได้ตัดสินใจสละราชสมบัติ ยามฉันได้อ่านพระราชหัตเลขาสละราชสมบัติของล้นเกล้าฯ ครั้งใด ฉันยิ่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของท่านมากเท่านั้น
.
หลังจากคณะราษฏร์ เข้ามาปกครอง แม้ความเป็นอยู่ของแม่พลอยจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จิตใจของแม่พลอยและชาวสยามไม่มั่นคงใช่ไหม ความรู้สึกนี้รุนแรงถึงขนาดที่รัฐบาลต้องอัญเชิญล้นเกล้า รัชกาลที่ 8 ที่ยังทรงพระเยาว์ขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เพียงเท่านี้หัวใจที่อ้างว้างของแม่พลอยก็เข้มแข็งขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นน่ากลัวนะ โดยเฉพาะยุคที่กระแสประชาธิปไตยและทุนนิยม เข้ามาพร้อม ๆ กัน จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น รัฐบาลไทยเข้าร่วมกับญี่ปุ่น แต่สยามกลับมีคณะเสรีไทยที่เข้าร่วมกับพันธมิตร ไม่ว่าใครจะแพ้ หรือชนะในสงครามครั้งนี้ สยามยังคงรอดอีกครั้ง ในช่วงนั้นชีวิตของแม่พลอยคงลำบากมาก ต้องหนีระเบิด ทั้งป่วยกระเสาะกระแสะ หยูกยาหายากเหลือเกิน ลำบากแสนสาหัส แต่ความลำบากนั้นกลับมลายหายไปเมื่อได้ยินข่าวการนิวัติพระนครของล้นเกล้าฯ ทั้งแม่พลอย แม่ช้อย และพ่อเพิ่มตื่นแต่เช้าเพื่อไปรับเสด็จ สร้างความปลาบปลื้มและกำลังใจให้กับปวงชนชาวสยาม แต่ความดีใจนั้นเป็นเพียงชั่วคราว เมื่อได้รับข่าวร้ายอีกครั้ง และครั้งนี้เกินกว่าที่แม่พลอยจะรับไหวแล้วใช่ไหม การจากไปของแม่พลอยพร้อมกับความทรงจำของสี่แผ่นดินสร้างความซาบซึ้งตรึงใจให้กับฉันมากมาย
.
แม่พลอยจ๋า ฉันขอเล่าเรื่องในแผ่นดินที่ 5 ให้แม่พลอยฟังบ้างนะ พ่อหลวงของฉันเป็นเทวดาที่อยู่บนดิน ท่านไม่ได้มีร่างสูงใหญ่ ไม่มีปีกจะโผบิน แต่ท่านให้ฟ้าหลั่งฝน ให้แผ่นดินที่แห้งแล้งมีต้นไม้ ท่านให้สายน้ำรินรดอาบแผ่นดิน ท่านเปลี่ยนสายลมเป็นพลังงาน เปลี่ยนพืชผลเป็นน้ำมัน ท่านเปลี่ยนไร่ฝิ่นให้เป็นพืชทำกิน ท่านเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดกาแฟที่มีคุณภาพระดับโลก ท่านให้พวกเรามีพอกิน และสอนให้พอเพียง ทำให้ฉันตระหนักว่าท่ามกลางทุนนิยมและวิทยาการที่ล้ำยุค หากฉันไม่หยุดพอ ฉันคงเป็นเหมือนทุ่นที่ลอยในน้ำอย่างไร้ทิศทาง ฉันอาจจะเชยเหมือนแม่พลอยนะ เพราะฉันรักพ่อหลวงของฉันจนสุดหัวใจ ฉันภาคภูมิใจที่เป็นคนไทย ได้เกิดมาภายใต้ร่มพระบารมีขอล้นเกล้า ล้นกระหม่อมรัชกาลที่ 9 เมื่อก่อนยามที่ฉันฟังเพลงในหลวงของแผ่นดินที่แม่พลอยร้อง ฉันตื้นตันใจมาก แต่ตอนนี้ฉันกลับน้ำตาไหลด้วยความคิดถึงเหลือเกิน......
.
สุดท้ายนี้ฉันขอขอบคุณเรื่องราวที่แม่พลอยเล่าให้ฟังนะจ๊ะ และฉันจะระลึกถึงแม่พลอยตลอดไป
ช่องทางการชำระเงิน
หน้าที่เข้าชม | 3,941,803 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,621,506 ครั้ง |
เปิดร้าน | 20 ก.พ. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |